คิดว่าหลายคนน่าจะเคยได้รับสายแปลก ๆ จากแก๊งคอลเซนเตอร์กันมาบ้างแล้ว ซึ่งวิธีการของกลุ่มคนเหล่านี้ก็พัฒนามาในหลากหลายรูปแบบและยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาหาวิธีรับมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์ไปด้วยกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเราตกไปเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแบบนี้ได้

วิธีการของแก๊งคอลเซนเตอร์

โดยทั่วไปแก๊งคอลเซนเตอร์จะมาในรูปแบบของการโทรหรือส่งข้อความ SMS เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของเรา เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวหรือหลอกให้โอนเงิน โดยวิธีพื้นฐานที่ใช้กันในช่วงแรก ๆ ก็คือการหลอกว่าเราถูกรางวัลพิเศษ เพื่อให้เราไปทำธุรกรรมบางอย่างให้ 

ต่อมากลุ่มแก๊งเหล่านี้ก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปเรื่อย ๆ โดยในปัจจุบันคนกลุ่มนี้มักจะโทรเข้ามาในฐานะพนักงานไปรษณีย์ หน่วยงานราชการ หรือพนักงานธนาคาร แล้วแจ้งว่าเรามีพัสดุตกค้าง มีใบสั่งต้องไปจ่าย หรือบัตรเครดิตมีปัญหา เป็นต้น

นอกจากนี้คอลเซนเตอร์บางกลุ่มอาจใช้วิธีปลอมตัวเป็นเพื่อนหรือญาติของเรา แล้วสร้างเรื่องราวขึ้นมาเพิ่มเติมว่าเขากำลังเดือดร้อนและต้องการเงินในการใช้จ่าย เพื่อโน้มน้าวใจให้เราโอนเงินให้เขาได้ง่ายขึ้น

ป้องกันตัวจากแก๊งคอลเซนเตอร์

เราไม่มีทางรู้เลยว่าแก๊งคอลเซนเตอร์จะโทรเข้ามาหาเราเมื่อไหร่ ดังนั้นเราจึงควรมีสติและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้แนะวิธีรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้ดังต่อไปนี้

1. สังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนรับสาย หากเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือเป็นเบอร์ที่มีเครื่องหมาย + นำหน้าให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นกลุ่มคอลเซนเตอร์ที่โทรเข้ามา
2. ตั้งสติเมื่อรับสาย เพราะการมีสติจะช่วยให้เราแยกแยะบุคคลในสายหรือคำถามที่ปลายสายถามได้ดีขึ้น โดยเราสามารถสังเกตความผิดปกติของปลายสายได้จากคำถาม เช่น การถามชื่อ และข้อมูลส่วนตัวโดยตรง หรือการใช้ข้อความอัตโนมัติในการตอบรับ แล้วให้เรากดเบอร์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ เป็นต้น
3. วางสายทันที หากมั่นใจแล้วว่าปลายสายเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์หรือมิจฉาชีพ 
4. แจ้งเบาะแส กับหน่วยงานที่ดูแล เช่น ตำรวจ ธนาคาร ค่ายมือถือ หรือ กสทช. 
5. เตือนภัยคนใกล้ชิด เล่าเรื่องกลโกงที่พบเจอให้คนใกล้ชิดที่มีแนวโน้มจะถูกหลอกได้ง่าย  เช่น เพื่อน หรือ ผู้สูงอายุในครอบครัว 

ทักษะรับมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์

นอกจากวิธีป้องกันตัวที่เราบอกไปแล้ว ก็ยังมีทักษะการรับมืออื่น ๆ ที่ควรมี ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสังเกต เช่น เมื่อเราได้รับข้อความใด ๆ ก็ตามให้สังเกตว่าข้อความนั้นมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่ หากข้อความนั้นไม่ได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือมีอยู่จริง ทักษะต่อไปที่ควรมี ก็คือทักษะการปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นปฎิเสธการคลิกลิงก์ที่ส่งมาใน SMS, ปฎิเสธที่จะบอกข้อมูลส่วนตัว, ปฎิเสธที่จะทำธุรกรรมการเงินผ่านตู้ ATM และปฎิเสธที่จะต่อบทสนทนา

อีกเรื่องที่เราต้องจำไว้ขึ้นใจในการรับมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์เลยก็คือ หน่วยงานราชการและสถาบันการเงินไม่มีนโยบายขอหรือตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลผ่านโทรศัพท์อย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีสายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือพนักงานธนาคารโทรมาถามข้อมูลส่วนตัวให้รีบวางสายโดยทันที

สายด่วน แจ้งเบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

หากมีสายเรียกเข้าที่มีความเป็นไปได้และมีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็สามารถแจ้งไปที่สายด่วนของหน่วยงานภาครัฐหรือเจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์ต่อไปนี้ เพื่อดำเนินการใน  ขั้นตอนต่อไป

• กสทช. โทร.1200
• ตำรวจ PCT โทร.1441
• NT โทร.1888
• True โทร.9777
• AIS โทร.1185
• DTAC โทร.1678

ในเมื่อเรายังไม่สามารถจัดการกับแก๊งคอลเซนเตอร์ได้ทั้งหมด ดังนั้งสิ่งที่เราทำได้ก็คือการระแวดระวังตัวเอง ไม่รับสายจากเบอร์แปลกหน้า และรู้จักสังเกตวิเคราะห์คู่สนทนาให้รวดเร็ว เพียงเท่านี้เราก็สามารถป้องกันตัวเองและคนรอบข้างจากแก๊งคอลเซนเตอร์ได้แล้ว 

สำหรับผู้ที่สนใจคอนเทนต์ดี ๆ เกี่ยวกับความรู้และทักษะดิจิทัล เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://seaacademy.co/programs/