Women Made Masterclass คอร์สออนไลน์เพื่อผู้ประกอบการหญิง

โครงการ Women Made เกิดจากความตั้งใจในการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงได้ใช้ศักยภาพทั้งความคิดสร้างสรรค์และความรู้ธุรกิจในการสร้างแบรนด์และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เราได้คัดเลือก 5 บทเรียนจากผู้เชี่ยวชาญของชั้นนำในด้านต่างๆ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ไปจนถึงการตลาดออนไลน์ มาร่วมแบ่งปันความรู้อย่างเข้มข้นใน Women Made Masterclass ส่งต่อเป็นความรู้ให้ผู้ที่สนใจนำไปประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองให้เติบโต และนี่คือ 5 บทเรียนที่เราได้เรียนรู้จาก Women Made Masterclass

1. มองเขามองเรา สะท้อนตัวตนผ่านแบรนด์ด้วยภาพและเสียง

เรียนรู้ศักยภาพไร้ขีดจำกัดของผู้หญิงและการใช้ภาพและเสียงเพื่อธุรกิจบนโลกออนไลน์ โดย ผศ.ดร.สามมิติ สุขบรรจง แอ็คติ้งโค้ช ผู้ก่อตั้ง TALENT SOCIETY และอาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม (COSCI) มหาวิทยาลัยศรีนครทรวิโรฒ “ร่างกาย เสียงและทัศนคติ” เป็นศักยภาพพื้นฐานภายในตัวเราที่สามารถดึงไปใช้ให้เพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสียงเพื่อสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า การสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองให้กลุ่มลูกค้าจดจำได้ รวมถึงทัศนคติที่ควรเตรียมพร้อมก่อนจะสื่อสารแบรนด์สินค้าออกไป เพราะ “ทัศนคติของเราเป็นเช่นไร แบรนด์ของเราก็ปรากฏออกไปเป็นแบบนั้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารแบบเรียลไทม์กับลูกค้าได้ผ่าน Live-commerce

2. การเล่าเรื่อง เริ่มต้นให้ได้ด้วยคำว่า “ทำไม”

“จงเป็นกระบอกเสียง เพราะเสียง 1 เสียงสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนได้เป็นล้านคน” คำกล่าวของคุณศรันย์ เย็นปัญญา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่าเรื่องสร้างสรรค์ ผู้ก่อตั้ง Founder 56studio, Citizen of Nowhere และ ร้านชำ FLVR Creative Grocery” ที่เปิดให้เห็นพลังของการเล่าเรื่องเพื่อสร้างแบรนด์และสร้างยอดขาย (Brand and Storytelling) โดยให้แง่คิดว่าแบรนด์คือตัวแทนของความเชื่อของธุรกิจเรา ซึ่งต้องถูกเล่าออกมาเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยการเล่าเรื่องของแบรนด์จำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะสำหรับโลกการค้าออนไลน์ที่ผู้ประกอบการมีโอกาสสื่อสารแบบสองทางกับลูกค้าน้อยกว่าออฟไลน์ เมื่อต้องใช้การสื่อสารทางเดียวค่อนข้างมาก การเล่าเรื่องให้เป็นผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น หน้าร้าน หรือ ตัวสินค้า จะทำให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องไปอยู่ในเกมการตัดราคา นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการเล่าเรื่องที่สำคัญ อย่าง Elevator Pitch เป็นการอธิบายตัวตนอย่างสั้นที่สุดแต่จับใจที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ รวมถึงทฤษฎีการเล่าเรื่องเชิงธุรกิจที่จำเป็นต้องรู้ มี 3 เรื่อง คือ 1) Be Authentic สื่อสารในแบบที่จริงใจและเป็นตัวเอง 2) In Media Res การเล่าเรื่องที่เริ่มจากเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด ในแบบที่คนต้องหยุดอ่าน ดู ฟัง และ 3)Start with Why ที่เริ่มต้นจากคำถามว่า ‘ทำไม’ เพราะถึงแม้จะขายสินค้าเหมือนกัน แต่คำตอบของ Why แต่ละคนจะไม่มีวันเหมือนกัน

3. สร้างแบรนด์ทั้งทีต้องมีภาพจำ

สำหรับหัวข้อ Brand Presentation ได้รับการถ่ายทอดโดย คุณเรวัฒน์ ชำนาญ อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Wallpaper* THAI EDITION ผู้เชี่ยวชาญด้าน Design Thinking และ Creative Research ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสื่อสาร รวมทั้งเป็นอาจารย์วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกเราว่าการสร้างแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญในยุคปัจจุบัน เพราะการมีแบรนด์ที่ทรงพลังจะทำให้เกิดการจดจำ สามารถทำให้คล้อยตามและกลับมาเป็นลูกค้าของเราได้ การสร้างแบรนด์มี 6 ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ คือการกำหนดเป้าหมาย (Brand Purpose) การกำหนดโพสิชันนิ่งของแบรนด์ (Brand Positioning) การสร้างความแตกต่างของแบรนด์ (Brand Differentiation) เอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ความเชื่อมั่นแบรนด์ (Brand Trust) และการทำดีของแบรนด์ (Brand Beneficence) ปัจจุบันมีแบรนด์สินค้าหลากหลาย เพราะฉะนั้นการนำเสนอข้อมูลของแบรนด์ (Brand Presentation) หรือบริษัทควรมีความโดดเด่น กระชับ เข้าใจง่าย สร้างการจดจำได้ดี ควรประกอบไปด้วยข้อมูลเบื้องต้นขององค์กร และเนื้อหาที่ตรงวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร ชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อ เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับกลุ่มผู้ฟังให้ได้มากที่สุด อีกทั้งต้องให้ความสำคัญกับรูปแบบการนำเสนอไม่ว่าจะเป็นภาพ การใช้น้ำเสียง และคำพูดหรือการอธิบาย ที่สำคัญต้องรู้จักกลุ่มผู้ฟังและบรรยากาศโดยรวม (Read the Room) เพื่อจะได้เตรียมตัวและถ่ายทอดเนื้อหา รวมถึงภาพลักษณ์ให้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ตรงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

4. นวัตกรรมไม่ใช่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

ดร.ฐิสิรักษ์ โปตะวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดออนไลน์ และอาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม (COSCI) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒได้ถ่ายทอดมุมมองที่น่าสนใจในหัวข้อ 10 Types Innovation – Creative Marketing ผ่าน case study ที่ทำให้เราเห็นว่านวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเท่ากับเทคโนโลยีล้ำๆเสมอไป ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1) นวัตกรรมที่เกี่ยวกับงานหลังบ้าน (Configuration) คือการจัดการบริหารภายในองค์กร ซึ่งต้องคำนึงเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการทำกำไร การจัดการทรัพยากรที่มีในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2) นวัตกรรมที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ (Offering) ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาสินค้า หรือการออกแบบสินค้าที่ดี ตลอดจนวิธีการสร้างส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร และ 3) นวัตกรรมที่เกี่ยวกับงานหน้าบ้าน (Experience) คือส่วนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ทั้งเรื่องการให้บริการ การเพิ่มคุณค่าและความโดดเด่นที่ช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้ามากที่สุด ฉะนั้น ยิ่งมีนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบ ยิ่งทำให้คนอื่นลอกเลียนแบบได้ยาก อีกทั้งยังพัฒนาธุรกิจให้แตกต่างและโดดเด่นได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

5. การดีไซน์ผลิตภัณฑ์ต้องหมุนตามการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ทัน

ในหัวข้อ ปรับแนวคิดในการทำผลิตภัณฑ์เพื่อขายบน Online Platform โดยคุณปฏิพัทธ์        ชัยวิเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เจ้าของรางวัล Designer of the Year 2019 และอาจารย์วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ฉายภาพให้เห็นว่าคนในยุค New Normal ที่ต้องรัดเข็มขัดพร้อมรับวิกฤตใหม่ ๆ อยู่เสมอ มักมองหาผลิตภัณฑ์ที่มากด้วยฟังก์ชั่นประโยชน์ใช้สอยและความคุ้มค่า นอกจากนี้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันไม่ใช่แค่การออกแบบรูปร่างหน้าตาของสินค้า แต่ยังเป็นการออกแบบประสบการณ์ให้ผู้ใช้งาน (User Experience Design) อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้าง Product Variety ได้มากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น นี่เป็นเพียง 5 บทเรียนสั้นๆที่เราได้เรียนรู้จาก Women Made Masterclass เท่านั้น ใครที่สนใจเรียนเต็มๆและดึงตัวตนของแบรนด์อย่างเต็มศักยภาพ  เข้าไปชมกันได้เลยที่ https://seaacademy.co/program_type/e-commerce-for-women-entrepreneurs/

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้

บันทึกการตั้งค่า